เมอร์เซเดส-เบนซ์ (ประเทศไทย) เปิดตัว E 350 e รถยนต์รุ่นล่าสุดภายใต้แบรนด์ EQ – Electric Intelligence ที่มาเติมเต็มรถยนต์ปลั๊กอินไฮบริดในกลุ่ม Contemporary Luxury Sedan ให้ครบครัน หลังจากที่ได้เปิดตัว S 500 e และ C 350 e ให้คนไทยได้สัมผัส เมื่อต้นปี 2559 ที่ผ่านมา
จากการเปิดตัว E350e ในครั้งนี้ จะทำให้ในปัจจุบัน ทางบริษัทฯมีผลิตภัณฑ์ภายใต้แบรนด์ EQ เป็นจำนวนกว่า 12 รุ่น หลังจากที่ได้เปิดตัว 9 รุ่น อย่าง C350e ใน 4 รุ่นย่อย S500e ใน 3 รุ่นย่อย และ GLE500e ใน 2 รุ่นย่อย เมื่อปีที่ผ่านมา”
Mercedes-Benz E350e คือ รถยนต์ซีดานระดับพรีเมี่ยม ที่ผสมผสานเทคโนโลยีล่าสุดของเครื่องยนต์ไฮบริด นวัตกรรมด้านยานยนต์ อุปกรณ์อำนวยความสะดวกชั้นเลิศ และภาพลักษณ์อันหรูหราของรถยนต์ตระกูลอี-คลาสเข้าไว้ด้วยกัน สำหรับ E 350 e มีให้เลือก 3 ดีไซน์ด้วยกัน คือ Avantgarde, Exclusive และ AMG Dynamic ที่โดดเด่นในเรื่องสมรรถนะและอัตราการใช้พลังงานที่ดีเยี่ยม โดย E 350 e ผ่านการตรวจสอบผลกระทบทางสิ่งแวดล้อม โดยสำนักงานตรวจสอบมาตรฐานทางเทคนิคแห่งประเทศเยอรมนี และได้รับใบรับรองด้านผลกระทบทางสิ่งแวดล้อม
ซึ่งใบรับรองดังกล่าว ให้การรับรองรถยนต์รุ่น E 350 e ว่าผ่านการประเมินระดับความเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมตลอดอายุของผลิตภัณฑ์ (Life Cycle Assessment) ซึ่งในกระบวนการตรวจสอบแบบองค์รวม ที่เมอร์เซเดส-เบนซ์นำรถยนต์ไปตรวจสอบ ผู้เชี่ยวชาญไม่ได้วัดอัตราการใช้พลังงาน หรืออัตราการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ขณะขับขี่เท่านั้น แต่ยังวัดอัตราการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ตั้งแต่กระบวนการผลิต ไปจนถึงกระบวนการนำวัสดุกลับมาใช้ใหม่
ในส่วนของระบบมัลติมีเดียนั้น E 350 e AMG Dynamic จะมาพร้อมกับระบบเสียงรอบทิศทาง Burmester® นอกจากนี้ ทั้ง 3 รุ่นยังมาพร้อมกับ ระบบ COMAND Online พร้อม Controller, ระบบควบคุมและสั่งงานด้วย Touchpad, ระบบสั่งการด้วยเสียง (LINGUATRONIC) เฉพาะภาษาอังกฤษ, ฟังก์ชั่นเชื่อมต่อโทรศัพท์มือถือระบบปฏิบัติการ iOS (Apple CarPlay™) และ Android (Android Auto) รวมถึงการติดตั้งระบบแผนที่นำทาง พร้อมเพิ่มสุนทรียภาพในการโดยสารด้วยระบบไฟสร้างบรรยากาศในห้องโดยสาร ที่ปรับสีได้ถึง 64 สีด้วยกัน
E 350 e มาพร้อมกับระบบ “Mercedes-Benz Intelligent Drive” เพื่อให้ผู้ขับขี่และผู้โดยสารได้รับความปลอดภัยสูงสุด ด้วยระบบการช่วยเหลือและระบบความปลอดภัยที่มีประสิทธิภาพ โดยระบบดังกล่าวมีพื้นฐานมาจากแนวคิดการปกป้องก่อนเกิดเหตุและหลังเกิดเหตุเข้าไว้ด้วยกัน ภายใต้ระบบควบคุมอัจฉริยะเพียงหนึ่งเดียวที่ทำงานสอดประสานกัน ไม่ว่าจะเป็น ระบบช่วยนำรถเข้าจอดอัตโนมัติ และระบบชาร์จโทรศัพท์มือถือแบบไร้สาย โดยรุ่น Avantgarde จะมาพร้อมกับกล้องแสดงภาพด้านหลังขณะถอยรถ ในขณะที่รุ่น Exclusive และรุ่น AMG Dynamic จะมาพร้อมกับกล้องแสดงภาพรอบทิศทาง รวมถึงระบบช่วยรักษาระยะห่างจากรถที่อยู่ด้านหน้า (Distance Pilot DISTRONIC) และระบบช่วยเตือนเมื่อมีรถอยู่ในจุดอับสายตา (Blind Spot Assist) ที่ติดตั้งขึ้นเป็นครั้งแรกในรถยนต์รุ่นนี้อีกด้วย
E 350 e ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบแถวเรียง ความจุกระบอกสูบ 1,991 ซีซี กำลังแรงม้าสูงสุดที่ 211 แรงม้า ที่ 5,500 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 350 นิวตันเมตร ที่ 1,200-4,000 รอบต่อนาที และกำลังจากมอเตอร์ไฟฟ้าที่ 88 แรงม้า แรงบิดสูงสุดจากมอเตอร์ไฟฟ้าที่ 440 นิวตันเมตร อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. อยู่ที่ 6.2 วินาที ความเร็วสูงสุด 250 กม./ชม. ขับเคลื่อนด้วยระบบส่งกำลังแบบเกียร์อัตโนมัติเดินหน้า 9 จังหวะ (9G-TRONIC PLUS) พร้อมระบบเปลี่ยนเกียร์ที่พวงมาลัย
ราคาจำหน่ายมีดังนี้
E350e Avantgarde ราคา 3,490,000 บาท
E350e Exclusive ราคา 3,790,000 บาท
E350e AMG Dynamic ราคา 4,090,000 บาท